อารยธรรมมนุษย์

อารยธรรมมนุษย์ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช: กระบวนการปลูกฝังความรู้และประสบการณ์ของมนุษย์จากยุคหนึ่งสู่อีกยุคหนึ่ง จนกลายเป็นความเจริญทางวัตถุและความก้าวหน้าทางจิตใจหรือทางปัญญา สรุป: วัฒนธรรม หมายถึง อุปกรณ์ วิถีชีวิต หรือรูปแบบการดำรงชีวิตที่สังคมได้สร้างขึ้นและยึดถือร่วมกัน สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ผ่านการเรียนรู้ ประสบการณ์ และการปลูกฝังทางสังคม
ประเภทของวัฒนธรรม

  • วัฒนธรรมทางวัตถุรวมถึงสิ่งต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ แบ่งออกเป็นทั้งมีรูปร่างและไม่มีรูปร่าง มีรูปร่าง เครื่องมือ เครื่องใช้ โบสถ์ มหาวิหาร โรงงาน ภาพวาด ไม่มีรูปร่าง ภาษาพูด สัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อสื่อความหมาย แผนการดำรงชีวิต
  • วัฒนธรรมทางจิต (ไม่ใช่วัตถุ) : เป็นความคิดหรือความคิดที่เป็นนามธรรม อุดมการณ์ ค่านิยม ประเพณี ความคิด

Edward Mc. Cudberns : เป็นวัฒนธรรมขั้นสูง คือ วัฒนธรรมที่จะเรียกว่าเป็นอารยธรรมได้ก็ต่อเมื่อวัฒนธรรมนั้นได้มีการพัฒนาให้เจริญถึงขั้นสูงสุดแล้ว ต้องมีการบันทึกเรื่องราวต่างๆ วัฒนธรรมด้านอื่นต้องได้รับการปรับปรุง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช : ความเจริญทางวัตถุและทางจิตใจของมนุษย์ สองอย่างนี้รวมกันอยู่ในรัฐหรือประเทศ มีสถาบันการปกครอง สถาบันศาสนา และสถาบันอื่น มนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ไม่มีสถาบันเหล่านี้ จึงไม่มีอารยธรรม สรุป : อารยธรรม หมายถึง ความเจริญทางด้านต่างๆที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆและเป็นความเจริญที่สูงกว่าวัฒนธรรมพื้นฐาน

ความสำคัญของอารยธรรม อารยธรรมมนุษย์

อารยธรรมมนุษย์ ให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์อารยธรรมขึ้นมาก็เพื่อต้องการสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาเพื่อสนองความต้องการและปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองและเพื่อความเจริญของสังคมโดยรวม โดยอาศัยปัจจัย ดังนี้

  1. อาหาร เครื่องนุ่มห่ม ที่อยู่อาศัยและยารักษาโรค
  2. ระบบการปกครอง : ต้องมีกฏหมาย และผู้บริหารประเทศ
  3. การจัดระบบสังคม ชนชั้นสูง(ผู้ดี), ชนชั้นกลาง(พ่อค้า), ชนชั้นล่าง (กรรมกร ทาส คนฆ่าสัตว์ สัปเหร่อ)
  4. การแสวงหาความรู้
  5. ความรู้สึกและการแสดงความคิดเห็น
  6. ศาสนาและความเชื่อ : มนุษย์ต้องการความมั่นคงทางด้านจิตใจ

ปัจจัยช่วยเสริมสร้างอารยธรรม

สภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์: สมัยก่อนสังคมเป็นเกษตรกรรม สังคมจึงมักถูกเลือกตามเงื่อนไขที่เหมาะสม อารยธรรมเมโสโปเตเมีย อารยธรรมอียิปต์ อารยธรรมอินดัส อารยธรรมจีน (ดร.เอลส์เวิร์ธ ฮันตินตัน กล่าวว่า ทุกชาติบนโลกจะไม่สามารถสร้างอารยธรรมได้หากไม่มีสภาพแวดล้อมที่ดี) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี: แต่ละยุคจะมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เท่ากับอารยธรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละยุคสมัยอีกด้วย พัฒนาเทคโนโลยีการก่อสร้าง อาวุธ เครื่องมือ สาธารณสุข การเติบโตทางสังคม และการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม มนุษย์รู้วิธีใช้ไฟ ทำให้สามารถทำงานได้มากขึ้น การขยายตัวทางเศรษฐกิจ มีการแบ่งแยกแรงงานที่ชัดเจนยิ่งขึ้น มีการแลกเปลี่ยนอาการ มีการจัดบริการและสร้าง “ตลาด” ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนสิ่งของ ความเชื่อและศาสนา: มนุษย์มีความคิดที่จะหลบหนีจากความกลัว ทำให้เกิดประเพณีต่างๆ

การเปลี่ยนแปลงทางการเกษตร จากการเก็บป่า เราเริ่มรู้จักการปลูกพืชและหาเลี้ยงชีพจากสังคมเล็กๆ ที่กลายมาเป็น ชนเผ่า และกลายเป็นชุมชน ลำดับสถานะทางสังคมที่ทำให้เกิดความสัมพันธ์ทางชนชั้น อารยธรรม ยุคก่อนประวัติศาสตร์ (ยังไม่มีภาษาเขียน ครอบคลุมตั้งแต่สมัยที่มนุษย์ถือกำเนิด – บันทึกเริ่มถูกบันทึกไว้)
อารยธรรมตะวันตกอารยธรรมมนุษย์

  • ยุคหินเก่า: เครื่องใช้และอาวุธทำจากหินหยาบ พวกเขารู้วิธีการใช้ไฟ ในตอนแรกพวกเขาอาศัยอยู่ในถ้ำ ต่อมาพวกเขาเรียนรู้การใช้หินมาทำกำแพงบ้าน ศิลปะที่มีชื่อเสียงคือศิลปะมากาเลียนเป็นภาพเขียนบนผนัง
  • ยุคหินกลาง: อาวุธที่ทำจากหินได้รับการขัดเกลามากขึ้นกว่าที่เคย เรียนรู้เกี่ยวกับการเกษตรแบบเรียบง่ายและการเลี้ยงสัตว์
  • ยุคหินใหม่ ทำนา ปลูกข้าว ปลูกผัก มีเครื่องปั้นดินเผา และพบอนุสาวรีย์สโตนเฮนจ์ในอังกฤษ
  • ยุคโลหะ: เป็นที่รู้กันว่าทองแดงมีประโยชน์โดยการใช้แทนหิน ต่อมาได้นำทองแดงผสมกับดีบุกเข้ามา กลายเป็นทองสัมฤทธิ์ โดยนำทองสัมฤทธิ์มาทำสร้อยคอ กริช เข็ม และเครื่องประดับ *ชาวกรีกเป็นชาติแรกที่หลอมเหล็กเพื่อใช้ มีการประดิษฐ์ตัวอักษร

อารยธรรมตะวันออก

  • ยุคหินเก่า พบกับมนุษย์ปักกิ่ง บรรพบุรุษของชาวจีน ชาวชวา มนุษย์โซโล (ที่เหลือก็คล้ายกับชาวตะวันตก)
  • ยุคหินกลาง: คันธนูที่ทำจากลูกธนูหอนที่พบ และยังแบ่งออกเป็นวัฒนธรรมฮวาบินห์และวัฒนธรรมบั๊กเซิน
  • ยุคหินใหม่: รู้เรื่องการทำฟาร์มและการเลี้ยงสัตว์ มนุษย์เริ่มตั้งถิ่นฐานในที่แห่งหนึ่ง การทำเครื่องปั้นดินเผาแบบง่ายๆ
  • ยุคโลหะ: ใช้ทองแดง ทองแดง และเหล็ก ตามลำดับ

บทความที่เกี่ยวข้อง